วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

nokea 3g

โนเกียช็อกวงการอีกครั้ง หลังจากที่มือถือคู่แข่งไอโฟนอย่าง “โนเกีย 5800″ ทำยอดขายถล่มทลายไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากเปิดตัวไม่ถึงไตรมาส ส่วนที่ไทยเองก็กระแสแรงใช้ย่อยมียอดจองนับหมื่นเครื่องก่อนเครื่องจริงจะมาถึงหน้าร้านในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

ล่าสุดโนเกียส่งโปรดักส์ใหม่มากระตุ้นอะดรีนารีนของสาวกอีกครั้งด้วยการโชว์ตัวจริงของ “โนเกีย 5630″ XpressMusic มือถือ 3G มัลติมีเดียที่เบาทั้งเครื่องและราคา ที่ว่าเบาและบางนั้นเพียง 12 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 83 กรัม เป็นมือถือระบบปฏิบัติการซิมเบียน S60 ที่ติดกล้อง 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และไฟแฟลช



เรื่องที่จี๊ดๆ สำหรับมือถือรุ่นนี้ก็คือ การถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ HD, รองรับการเล่นเกมของ N-Gage, และที่หน้าจอหลักขณะพักจอก็มีการใส่ปุ่ม Shortcut ไว้มากมาย (ไม่ต้องเสียเวลามาลงโปรแกรมอื่นๆ อีกครั้ง) ทำให้เข้าใช้งานมือถือได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เท่านั้นยังไม่พอ โนเกีย 5630 ยังใส่ลูกเล่นที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ เรียกว่า “Say and Play” เพียงแค่ผู้ใช้ส่งเสียงเรียกชื่อเพลงหรือชื่อนักร้องก็พร้อมเล่นดนตรีได้ทันที ครบครันความบันเทิงด้วยช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร อีกด้วย
ดูวิดีโอสาธิตการใช้งาน  โนเกีย 5630 ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

SONY VAIO VGN-UX27SN




โซนี่ ไวโอ้ UX27 เป็นผลงานการออกแบบชิ้นเอกจากทางโซนี่ ที่สามารถ "ยัด" เอาแพลทฟอร์มอินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยีเข้าไปอยู่ในเครื่องขนาดพอดีมือ ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 520 กรัม แต่พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ไม่น้อยหน้าโน้ตบุ๊คทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นซีพียูอินเทล คอร์ โซโล ความเร็ว 1.33GHz, หน่วยความจำหลักมากถึง 1GB, ฮาร์ดดิสก์ขนาด 40GB กับเทคโนโลยี และ ฟีเจอร์ที่ติดตัวมาเพียบตามสไตล์ไวโอ้ เช่น ไวร์เลสแลน, บลูทูธ, เครื่องสแกนลายนิ้วมือ, กล้องเว็บแคม 2 ตัว หน้า-หลัง, ซอฟท์แวร์อำนวยความสะดวกมากมาย และที่สำคัญก็คือ มันติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows Vista มาให้เลย


ตัวเครื่อง Sony VAIO VGN-UX27SN ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดจับถือได้พอดี 2 มือ พร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 4.5 นิ้ว แต่มีความสว่าง และ ความละเอียดสูง รายรอบตัวเครื่องประกอบไปด้วยอินเตอร์เฟซมาตรฐานพีซีมากมาย ซึ่งไวโอ้เครื่องนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นในการพกพาคอมพิวเตอร์และสามารถหยิบขึ้นมาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา กับน้ำหนักเพียง 520 กรัมครับ (เบากว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป 3-4 เท่าตัว)
Sony VAIO UX27SN ยังคงอยู่ภายใต้แพลทฟอร์มอินเทล เซนทริโน ซึ่งใช้ซีพียู Intel Cole Solo ULV U1500 (ซิงเกิล-คอร์ ความเร็ว 1.33GHz มีแคชระดับสองขนาด 2MB) รุ่นประหยัดพลังงานพิเศษ (Ultra-Low Voltage) ที่มีค่า TDP สูงสุดเพียง 5.5 วัตต์เท่านั้น ตัวเครื่องพกแรมติดตัวมาขนาด 1GB ซึ่งเป็นแรมออนบอร์ด ไม่สามารถทำการเพิ่ม-ลด-ปรับเปลี่ยนได้ ฮาร์ดดิสก์ที่ติดมา มีขนาด 40GB ไม่สามารถทำการเปลี่ยนได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากตัวเครื่องถูกออกแบบมาพิเศษ ให้มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม ถึงต้องสูญเสียในเรื่องของความยืดหยุ่นตรงนี้ไป


หน้าจอ TFT-LCD ของไวโอ้ UX27 นั้น เป็นหน้าจอชนิดพิเศษ ขนาดเล็กเพียง 4.5 นิ้วไวด์สกรีน แต่รองรับความละเอียดสูงถึง 1024x600 (WSVGA) เสริมความสว่างพิเศษด้วยเทคโนโลยี ClearBright โดยใช้หลอดสีขาว ให้ความสว่างหน้าจอ นอกจากนี้ หน้าจอยังเป็นระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานจริง อีกด้วย
บริเวณขอบเหนือหน้าจอ ทางโซนี่ได้วางกล้องเว็บแคมความละเอียด 3 แสนพิกเซล (640x480) เอาไว้ เพื่อรองรับการสนทนาผ่าน video (และทางด้านหลังของตัวเครื่อง ยังมีกล้องมาให้อีกหนึ่งตัว ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล เพื่อรองรับการถ่ายภาพทั่วไป) ส่วนอีกมุมหนึ่งของหน้าจอ เป็นตำแหน่งของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ สำหรับฟีเจอร์ทางด้านความปลอดภัย โดยเราสามารถใช้ลายนิ้วมือแทน password ในการล็อคเครื่อง รวมถึงเป็น password แทนการ login ในโปรแกรม หรือ เว็บต่างๆ ได้ด้วย (ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก เนื่องจากคีย์บอร์ดของ UX27 มีขนาดค่อนข้างเล็ก และอาจไม่มีความสะดวกเท่าที่ควร ในการกด password เพื่อ login เข้าสู่ระบบต่างๆ ครับ)
Sony VAIO UX27 สามารถทำการสไลด์หน้าจอขึ้น เพื่อเปิดในส่วนของคีย์บอร์ดได้ตามภาพครับ โดยคีย์บอร์ดที่ติดมา เป็นคีย์บอร์ด 64 คีย์ กับขนาดของปุ่มที่ค่อนข้างเล็ก และต้องอาศัยความคุ้นเคยค่อนข้างมาก กว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว การพิมพ์ข้อความยาวๆ ค่อนข้างลำบากครับ เนื่องจากการวางเลย์เอาท์ของคีย์บอร์ด ไม่ได้มีการเหลื่อมล้ำเหมือนกับคีย์บอร์ดมาตรฐาน ทำให้เกิดความสับสนในการพิมพ์ และเนื่องจากขนาดของปุ่มที่เล็ก ทางโซนี่จึงไม่สามารถเพิ่มในส่วนของเลย์เอาท์ภาษาไทยลงไปในคีย์บอร์ดของ UX27 ได้ ซึ่งงานนี้ใครที่พิมพ์คียบอร์ดไทยไม่คล่อง อาจต้องประสบปัญหาพอสมควรครับ หรือถึงใครจะพิมพ์ไทยคล่องแล้ว ก็ยังต้องไปเจอกับปัญหาการเหลื่อมล้ำของคีย์ ที่ใน UX27 เล่นวางทุกปุ่มในแต่ละบรรทัดขนานกันลงมาเป็นแถวเดียวกันหมด ต้องเรียนตามตรงว่า คีย์บอร์ดเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของเครื่องไวโอ้ UX27 ตัวนี้เลยล่ะครับ (ลองนึกภาพขณะที่มีความจำเป็นต้องกด shift พร้อมคีย์อื่น หรือกดปุ่ม Fn พร้อมคีย์ใดๆ กับขนาดปุ่มที่เทียบกับปลายนิ้วแล้ว ยังเล็กกว่ามากดูละกัน)


SAMSUNG R478




สีสันสวยงาม เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
Samsung นำเสนอดีไซน์ Touch of Color ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบาย สร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง ตัวเครื่อง R478 ใช้สีแบบไล่ระดับ พร้อมด้วยดีไซน์ crystal S ที่ดูสะดุดตา ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ Intel® Core™ i3* ให้พลังการประมวลผลสูงสุด แป้นพิมพ์แบบแยกส่วนให้รูปลักษณ์ที่กลมกลืนและเพิ่มความสะดวกสบายในการพิมพ์ ทัชแพด LED ให้สัมผัสที่เรียบลื่น ตอบสนองต่อการสั่งการได้อย่างฉับไว ดีไซน์ Touch of Color ของ Samsung ทำให้คุณดูโดดเด่นและแตกต่าง*อุปกรณ์เสริมจากโรงงาน


ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อสไตล์และความปลอดภัย
เนื่องจากคุณต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ Samsung R478 จึงได้รับการออกแบบเพื่อให้ชีวิตของคุณไม่มีสะดุด ที่จริงแล้ว งานฝีมือคุณภาพสูงครอบคลุมทั้งโครงเครื่องภายนอกและการทำงานประสิทธิภาพสูงภายในตัวเครื่อง R478 ทนทานต่อการชนกระแทก ด้วยโครงเครื่องที่แข็งแกร่ง ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อปกป้องชิ้นส่วนภายในให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ และดีไซน์ที่เรียบหรู ถูกต้องตามหลักเออร์โกโนมิกส์ เพิ่มความสะดุดตา และทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ


เพิ่มความบันเทิงด้วยการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม
R478 เปิดโอกาสให้คุณเล่นเกมได้เร็วขึ้น มันส์ขึ้น และดีขึ้นกว่าเดิม และคุณจะรับชมภาพยนตร์ทุกเรื่องได้อย่างประทับใจมากขึ้น ด้วยการ์ดแสดงผลรุ่นล่าสุด NVIDIA GeForce GT 330M* พร้อมพลังประมวลผลกราฟิก 3D และหน่วยความจำ 1GB gDDR3* เพื่อประสิทธิภาพการแสดงผลที่เหนือกว่า คุณจึงสามารถสัมผัสทุกประสบการณ์จากเกมคอมพิวเตอร์ 3D ขั้นสูง รวมถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นความละเอียดสูง นับเป็นอุปกรณ์ที่เปี่ยมล้นด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของคุณอย่างสิ้นเชิงสำหรับการรับชมภาพยนตร์และการเล่นเกม*อุปกรณ์เสริมจากโรงงาน


ภาพที่สมบูรณ์แบบ
อัตราส่วนการแสดงผล 16:9 ในเครื่อง R478 ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเกมและภาพยนตร์ ด้วยการแสดงผลที่แม่นยำ และคุณก็ไม่ต้องรำคาญใจกับแถบสีดำที่บดบังภาพบนหน้าจออีกต่อไป คุณจะได้รับชมภาพยนตร์อย่างสมจริง ด้วยภาพที่แสดงรายละเอียดอย่างคมชัด สีสันสว่างสดใส บนจอแสดงผล HD LED ขนาด 14 นิ้ว ยิ่งไปกว่านั้น จอแสดงผลดังกล่าวใช้พลังงานน้อยกว่า คุณจึงเพลิดเพลินกับความบันเทิงได้ยาวนานขึ้น สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงขณะเดินทาง และเพลิดเพลินกับภาพที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้น


NEX-3 NEX-5




โซนี่ได้เปิดตัวกล้องกล้องคอมแพ็คเปลี่ยนเลนส์ได้ รุ่น NEX-3 และ NEX-5 ทั้งคู่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Exmor APS HD CMOS ความละเอียด 14.2 เมกะพิกเซล รองรับ Memory Stick และ SDXC หน้าจอแสดงผลแอลซีดี 3.0 นิ้ว โดย NEX-3 รองรับการถ่ายวีดีโอ HD 720p ที่ 30fps ส่วน NEX-5 รองรับการถ่ายวีดีโอ HD 1080i นอกจากนั้นโซนี่ยังประกาศว่าจะปล่อยเฟิร์มแวร์ใหม่ในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยจะเปิดฟีเจอร์ Sweep Panorama with 3D Capability ฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบพาโรนาม่าแบบ 3 มิติโดยการถ่ายภาพในโหมด burst เพื่อสร้างภาพขนาด 23 เมกะพิกเซลในมุมมอง 226 องศาโดยรอบได้
อัพเดท โซนี่จะเปิดตัวในทวีปยุโรปในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ส่วนฟากสหรัฐฯ เปิดจองล่วงหน้าแล้ว สนนราคา NEX-3 เริ่มต้นที่ 549 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,000 บาท) ส่วน NEX-5 เริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,000 บาท) สำหรับหน้าตากล้องจะเป็นอย่างไรดูได้จากท้ายข่าว ส่วนใครสนใจพรีวิว NEX-3, NEX-5 ลองเข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ DPreview.com
ที่มา: โซนี่

LG cookie plus 3G




ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)- HSDPA 7.2 Mbps (900/2100 MHz)
จอสัมผัส TFT-LCD TFT 262,144 สี 240 x 400 พิกเซล (3.0")- เมนูระบบ Flash UI - ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor) - ระบบจดจำลายมือ (Handwriting recognition)
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 30.1 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง)- การ์ดหน่วยความจำ microSD card - สูงสุด 16 GB
บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)- แสดงรูปถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo CallerID)


ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- บลูทูธ Bluetooth™ v2.1, USB v2.0 - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo) ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML, WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ Email, MMS, EMS, SMS- ข้อความแชท (Instant Messaging)ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS Class 10 รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
กล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล (Digital camera)- ขนาดภาพสูงสุด 2048x1536 พิกเซล (Image Size) - ซูมดิจิตอล 2 เท่า (2x Digital zoom)- คุณภาพของภาพถ่าย : ละเอียดมาก, ละเอียด และ ปกติ - ค่าชดเชยแสง EV -4.5 ถึง +4.5 - โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง : ปกติ, ต่อเนื่อง 3, 6 และ 9 ภาพ - เอฟเฟ็คสี : ปกติ, ขาวดำ, เนกาทีฟ และ สีซีเปีย - สมดุลแสงสีขาว : อัตโนมัติ, หลอดไฟ, แสงอาทิตย์, ฟลูออเรสเซนต์ และ มืดครื้ม - โหมดถ่ายภาพกลางคืน - ตั้งเวลาถ่ายภาพ : ปิด, 3, 5 และ 10 วินาที เสียงชัตเตอร์ : 3 เสียง - การลดนอยซ์ : เปิด/ปิด กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording) - ความละเอียด 320x240 และ 176x144 พิกเซล- ค่าชดเชยแสง EV -4.5 ถึง +4.5 - ซูมดิจิตอล 2 เท่า (2x Digital zoom)- เอฟเฟ็กต์สี : ปกติ, ขาวดำ, เนกาทีฟ และ สีซีเปีย- สมดุลแสง : อัตโนมัติ, หลอดไฟ, แสงอาทิตย์, ฟลูออเรสเซนต์ และ มืดครื้ม
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Playback) - รูปแบบไฟล์ MPEG4, .3GP เครื่องเล่นเพลง (Music Player) - รูปแบบไฟล์ MP3, WMA, AAC วิทยุ FM Radio - RDS ช่องเสียงชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร บันทึกข้อความเสียง (Voice Memo) แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree) โปรแกรมอ่านงานเอกสาร (Document viewer)
เกมส์ : ทอยลูกเต๋า, Golf slope, Music worldPocket Apps : Mellow candle, Mind selector, Sound tunner, Banner, Weight tracker, Running mate ปฎิทิน, บันทึก, เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ตัวแปลงหน่วย, เวลาโลก, นาฬิกาจับเวลา
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 900 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - ชั่วโมง (Talk Time)

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

คุณสมบัติทั่วไปของOPPO





เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones 64 ชิ้นเครื่องดนตรี - รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3 - ระบบสั่นในตัว นาฬิกาบอกเวลา นาฬิกาจับเวลา ตั้ง ปลุก แสดงภาพพื้นหลัง (Wallpapers)
ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการแสดงผลด้วย Themes - โปรแกรม DIY-Desk สำหรับการสร้าง Themes ด้วยตนเอง โปรแกรม Organizer ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย เครื่องคิดเลข To-Do-List จดบันทึก
โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง (Oplayer) - รองรับการเล่นไฟล์เพลง MP3, AAC, AMR - เทคโนโลยี PAD (Pure Audio Design) ช่วยเพิ่มคุณภาพ และความไพเราะของเสียง
โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ MPEG4, AVI, 3GP
โปรแกรม Blacklist ช่วยในการปฏิเสธหมายเลขที่ไม่ต้องการรับสาย
โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์เอกสาร E-Book (.txt)
โปรแกรมดิกชันนารีสำหรับแปลคำศัพท์ (E-dict) - รองรับการแปลคำศัพท์ภาษาไทย, จีน, อังกฤษ - ฐานข้อมูลคำศัพท์มากกว่า 100,000 คำ
กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels - ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592x1944 Pixels - ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 8 ระดับ (Digital Zoom) - ถ่ายภาพวิดีโอ (HD : 30 fps) - ซีนถ่ายรูปแบบ Lomo 10 รูปแบบ (Fisheye, 4 Images, Tunnel, Sketch, Four-Color, Soft Focus, Mirror, Spotlight, Cartoon, Emboss) - โหมดการถ่ายภาพแบบ Sports Mode ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/1099 วินาที - โหมดถ่ายภาพในแนวกว้าง (Panorama Mode) - โหมดถ่ายภาพระยะใกล้ (Macro Mode) - โหมดถ่ายภาพในที่มืด (Night Mode : ISO สูงสุด 1600) - ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า (Self-Timer : สูงสุด 10 วินาที) - โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ (DIY-Pic) วิทยุ FM Stereo ในตัว รองรับ Java Applications (MIDP 2.0) - เปิดใช้งานหลายโปรแกรมได้พร้อมๆ กัน เกมส์ในเครื่อง
มี 3 สีมาตรฐานให้เลือก (ชมพู, ขาว และ ดำ : Pink me, White me, Black me) เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010 กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010 ราคาเปิดตัว 7,990 บาท







"ไอโฟน" เป็น "ไอค็อป" คิดค้นโปรเเกรมเพื่อป้องกันการขโมย



บริษัทแอปเปิลได้แปลงโทรศัพท์ "ไอโฟน" ให้กลายเป็น "ไอค็อป" ที่เป็นตำรวจในตัวไปด้วย โดยที่มันสามารถจะจดจำอัตราการเต้นของหัวใจของเจ้าของเดิม ซึ่งจะฟ้องให้เห็นได้ว่าผู้ที่พกพามันคนใหม่เป็นคนละคนกัน

วิศวกรของแอปเปิลกำลังพัฒนาโปรแกรมไฮเทคใหม่ขึ้น เพื่อจะให้มันสามารถจำ "ลายเซ็นเจ้าของ" ซึ่งจะใช้เทียบเคียงกับผู้ที่ถือครองมันอยู่ปัจจุบันได้ นอกจากคุณสมบัติในการจำหน้าและเสียง ทำนองแบบนักสืบ 007 ของมันแล้ว

โปรแกรมใหม่จะทำให้มันรู้จักฟังเสียงผู้ใช้ และเปรียบเทียบกับเสียงเจ้าของที่อัดเอาไว้ก่อน นอกจากนั้นกล้องถ่ายภาพในเครื่องก็ยังสามารถพิสูจน์ตัวผู้ต้องสงสัยอีกด้วย หากเป็นในกรณีที่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเจ้าของได้ มันก็จะปิดตัวมันเอง รวมทั้งลบข้อมูลต่างๆ เช่น ทำเนียบรายชื่อ รหัสและข้อความอื่นเสียทั้งหมด เจ้าหน้าที่บริษัทกล่าวว่ามันจะช่วยยับยั้งการขโมยมือถือราคาแพงเหล่านี้ลงได้บ้าง.

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติเกาะยาวน้อย




ประวัติความเป็นมา เกาะยาวน้อย
ตำบลเกาะยาวน้อย ก่อนปี พ.ศ. 2446 ขึ้นตรงต่อ อำเภอเมืองพังงา ต่อมาในปี พ.ศ. 2446 ทางราชการได้ยกฐานะบริเวณเกาะต่าง ๆ ขึ้นตรงกับ กิ่งอำเภอเกาะยาว และเป็นอำเภอเกาะยาวในปี พ.ศ. 2531 พลเมืองที่อยู่อาศัยอยู่บนเกาะยาวน้อยเล่าสืบมาว่าเป็นผู้ที่อพยพมาจากเมืองตรัง ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม 99% ปัจจุบัน ต.เกาะยาวน้อย แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 หมู่บ้าน
สภาพทั่วไปของตำบล
มีสภาพพื้นที่เป็นเกาะอยู่บริเวณอ่าวพังงา อยู่ทางทิศใต้ของ จ.พังงา ประมาณ 43 กม. มีพื้นที่ประมาณ 46.4 ตร.กม. ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาทอดยาวตลอดแนวเหนือใต้ บริเวณรอบเกาะมีที่ราบชายฝั่ง หาดทรายสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยว

อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับ อ่าวพังงา น่านน้ำ จ.กระบี่ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอันดามันทิศตะวันออก ติดต่อกับ หมู่เกาะ และน่านน้ำ จ.กระบี่ทิศตะวันตก ติดต่อกับ น่านน้ำ จ.ภูเก็ต

การปกครอง
แบ่งเป็น 7 หมู่บ้าน ได้แก่- หมุ่ 1 บ้านท่าค่าย - หมู่ 2 บ้านใหญ่- หมุ๋ 3 บ้านน้ำจืด- หมู่ 4 บ้านท่าเขา- หมู่ 5 บ้านริมทะเล- หมู่ 6 บ้านแหลมยาง- หมู่ 7 บ้านอันเป้า
จำนวนประชากร
จำนวนประชากรในเขต อบต. 3,252 คน และจำนวนหลังคาเรือน 854 หลังคาเรือน
ข้อมูลอาชีพ
- เกษตรกรรม ประมง- ค้าขาย รับจ้าง เลี้ยงสัตว์

กลุ่มอาชีพ / สินค้า
- ปลาเค็มตากแห้ง (ปลาต้าหลัง)- กลุ่มแม่บ้านทำขนมบ้านท่าเขา- กลุ่มโฮมสเตย์- กลุ่มทำดอกไม้จากเกล็ดปลา- กลุ่มทำผ้าบาติก

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

เปิดตัว ipone 4g

        เป็นไปตามคาดเดาเปีะครับ เมื่อ สตีฟจ๊อบส์ ได้ฤกษ์เปิดตัว iPhone ใหม่เรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการบนเวทีในงาน WWDC 2010 ซึ่งงานนี้ ไฮไลท์ของงานก็คือ iPhone รุ่นใหม่ที่เราได้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการแล้วว่า "iPhone 4 "            ด้วยสาเหตุที่มันยังรองรับการทำงานบนเครือข่าย GSM / UMTSเพราะฉะนั้นมันเลยไม่ได้ใช้ชื่อ 4G ตามคาด สำหรับหุ่นและหน้าตาของ iPhone 4 ตัวใหม่นี้ก็คือหน้าตาเดียวกับเครื่อง iPhone ที่ทางเว็บ Gizmodo เคยนำออกมาโชว์ ซึ่งเป็นเครื่องที่ทางทีมของ Apple ทำตกไว้ในบาร์นั่นเอง หน้าตาของ iPhone 4 ไม่ได้ถูกออกแบบใหม่อย่างที่หลายคนคาด งานนี้สตี๊ฟ จ๊อบส์ ถือว่ามีเสียหน้าเล็กน้อยเพราะว่าเครื่อง iPhone 4 ถูกชิงตัวไปออกสื่อก่อนเครื่องตัวจริงออก แต่อย่างไรก็ตามเครื่อง iPhone 4 ได้มีการปรับปรุงพัฒนาอยู่หลายด้านด้วยกัน ซึ่งงานนี้เชื่อว่า มันจะสามารถล่อตาล่อใจผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม แม้หน้าตาและหุ่นจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก สิ่งที่พลิประวัติศาสตร์วงการPDA Phone และ SmartPhone ก็คือ iPhone 4 รุ่นใหม่นี้นั้นมันเป็นโทรศัพท์ในแบบ SmartPhone ที่ตัวบางที่สุดในโลกในเวลานี้ โดยมีขนาดความบางเพียง 9.3 mm เท่านั้น ซึ่งบางลงกว่าเก่าถึง 24% นับว่าเป็นการทุบสถิติใหม่ให้กับวงการเรียบร้อยแล้ว

      ขนาดเดิมๆที่ 3.5 นิ้ว สำหรับการทำงานตัวเครื่องนั้นจะใช้ Processsor แบบเดียวกับ iPad นั่นก็คือ A4 sor เมื่อเครื่องแรงภาระก็ตกมตัวเครื่องนอก จากออกแบบสวยแล้ววัสดุต้องดีด้วยตามสไตล์ของ Apple โดยด้านหน้าเครื่องและด้านหลังตัวเครื่องจะมาในลักษณะอาคิริคแก้ว หรือ และGlass style เครื่องรุ่นนี้รอบๆตัวจะเป็น แสตนเลสจะคล้ายๆกับกล้องของ Leica รุ่นเก่า การที่มี สแตนเลสรอบตัวนอกจากความสวยงามแล้วคือกล้องด้านหน้า ซึ่งกล้องในเครื่องรุ่นนี้จะมี LED Flash ให้มาครบ โดยความละเอียดตัวกล้องจะเขยิบมาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อม Zoom 5 เท่าในมันยังถูกใช้เป็นเสาอากาศไปในตัว จะสังเกตว่าตัวเครื่องจะมีร่องรอยต่ออยู่ซึ่งเป็นเสาอากาศของเครื่องนั่นเอง เพราะขอบทั้งสองฝั่งจะวิ่งมาเจอกันโดยมีร่องกลางคั่นเอาไว้  

แบบ Digital Zoom มี "backside illuminated sensor," สามารถบันทึก HD video ได้ที่โหมด 720p / 30fpsสิ่ง ที่รอกันมานานสำหรับ iPhone 4 ก็สำหรั326 pixels per inch ซึ่งทาง Apple เองเรียกการแสดงผลแบบใหม่นี้ว่า Retina Display  ที่เรต 326ppi ซึ่งเหนือกว่าสายตาของคนบการแสดงผลหน้าจออันนี้ก็เด็ดสุดเช่น กันเพราะว่าหน้าจอรุ่นใหม่สามารถแสดงความละเอียดได้ถึง 4 เท่าที่ 960 x 640 พิกเซล เราที่จะแยกความแตกต่างในความละเอียดขนาดนี้ได้ ซึ่งจะคล้ายๆกับเครื่อง iPad ที่เป็น IPS display โดยมีคอนทราสที่ 800:1  บนความใหญ่หน้าจอในาอยู่ที่เรื่องแบตเตออีก สำหรับ iPhone 4 มีการพัฒนาแบตเตอรี่ให้ใช้งานทนทานขึ้นด้วย ซึ่งความจุของแบตเตอรี่ตามที่ทาง Apple ได้คุยไว้ก็คือ........
     1.คุยบนเครือ ข่าย 3G ได้นาน 7 ชม ต่อเนื่อง 
     2.เล่น Net บนเครื่อข่าย 3G ได้นานต่อเนื่อง 6 ชม 
     3.เปิด WiFi เล่น Net ได้นานต่อเนื่อง 10 ชม 
     4.ดู VDO ต่อเนื่องได้นาน 10 ชม 
     5.ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 40 ชม
        และ WiFi ในเครื่องรุ่นนี้จะเป็นแบบ 802.11n อีกด้วยและที่ขาดไม่ได้ เครื่องรุ่นนี้ใช้ Micro SIM ครับ  ส่วนระบบปฎิบัติการในเครื่องรุ่นนี้จะเป็น iOS4 หรือชื่อแบบเก่าที่เราเรียกันก็คือ iPhone OS 4 นั่นเอง ซึ่งทางผู้พัฒนาอาจจะต้องมีการแก้ไขปรับแต่ง App ของตนเองอีกเล็กน้อยเพื่อให้รองรับกับความละเอียดหน้าจอใหม่ที่ปรับปรุงใน ครั้งนี้ 

          เป็นฟังค์ชั่นพิเศษช่วยในการจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่องโดยผสมสามอย่าง ระหว่าง Gyroscope / Accelerometer  และ  Gyroscope / Compass ให้กลายเป็น 6 แกน เพื่อการใช้งานได้มากขึ้นในการจับความเคลื่อนไหวทั้งแนวตั้งและแนวนอนของตัว เครื่อง เช่นเกมส์แปลกๆในอนาคต เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากว่าเครื่องแบบนี้จะมี Gyroscope ในตัว ซึ่งปกติแล้ว Gyroscope มักจะ สิ่งที่พิเศษที่เรายังไม่เคยเจอใน iPhone รุ่นเก่าๆอีกเรื่องก็คือ Gyroscope แบบ 3 แกน ซึ่งจะคล้ายๆกับ Accelerometer ใช้ในอุปกรณ์ชั้นสูง ตัวอย่างเช่น หากเป็นเฮลิคอปเตอร์บังคับก็จะใช้ในการกันหางอัตโนมัติ หรือหากในวงการทหาร Gyroscope อาจจะถูกใช้ในปากกระบอกปืนรถถัง ที่เป้าไว้ตลอดเวลาขณะรถวิ่งขึ้นๆลงแต่ปากกระบอกจะถูกสั่งงานกันอัตโนมัติ ให้ชี้ตรงนิ่งไว้ที่เป้าหมาย
           สำหรับราคาและวันเวลาออกจำหน่ายก็คือ วันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยตัวเครื่องจะมีให้เลือกสองสีคือขาวและดำ โดยราคาค่าตัวคือ 199 เหรียญ สำหรับเครื่องความจุ 16GB และ 299 เหรียญ สำหรับเครื่องความจุ 32 GB โดย 5 ประเทศแรกที่ได้สิทธิ์ในการ Pre order ก่อนก็คือ US, France, Germany, UK, Japan ส่วนอีก 18 ประเทศจะเป็นในเดือน กรกฎาคม นี้


Update ข้อมูล iPhone 4G มาแล้ว

...ระบบ 3G คืออะไร เทคโนโลยี 3G หมายถึง ความเร็ว 3G..[*_*]

สำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+
HSDPAนั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )HSUPAจะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps
สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้
คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 900 จะถูกพัฒนาโดย AIS (ใช้ชั่วคราวที่เชียงใหม่ และ Central World)
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 กำลังรอ กทช. ทำการประมูลเพื่อจัดสรรคลื่นความถี่คลื่นความถี่ ( band ) 1900 และ 2100 จะถูกพัฒนาโดย TOT
ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่า

เปิดตัว LG LOLLIPOP 2 มือถือฝาพับสุดฮิป











แอลจี อิเล็คทรอนิกส์ เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ LG Lollipop 2 เพื่อเป็นการตอบรับกระแสมือถือฝาพับ สีสันสดใสถูกใจวัยรุ่น และเพื่อเป็นการเอาใจสาวก K-Pop แอลจียังได้ส่งศิลปินวง Big Bang กลับมาเป็นพรีเซนเตอร์อีกครั้ง พร้อมทำมิวสิควีดีโอใส่ไว้ในตัวเครื่อง LG Lollipop 2 ผลิตออกมา 3 รุ่น LG SU430 (SKT) / LG KU4300 (KT) / LG LU4300 (LGT) สำหรับทำตลาดในประเทศเกาหลี มี 3 สี ให้เลือก โดดเด่นด้วยไฟกระพริบ LED Mคุณสมบัติ โทรศัพท์มือถือ LG Lollipop 2
จอแสดงผล ความละเอียด 240 x 400 พิกเซล กว้าง 2.8 นิ้ว
เก็บข้อมูลลงในการ์ดหน่วยความจำ microSD สูงสุด 8 GB
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth v2.1, USB v2.0
กล้องถ่ายรูป ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส
เลนส์กล้องตัวรอง ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล สำหรับสนทนาแบบเห็นหน้าด้วยระบบ 3G
สนับสนุนการอ่านไฟล์เอกสาร (Text Viewer)
รับชมโทรทัศน์ผ่านเทคโนโลยี T-DMB
ขนาดตัวเครื่อง 108.5 x 52 x 14.6 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่มาตรฐาน 900 mAh - เปิดรอรับสาย 150 ชั่วโมง (Standby Time) - สนทนาต่อเนื่อง 150 นาที (Talk Time) atrix 220 จุด สำหรับแสดงภาพเคลื่อนไหวที่ด้านหน้าของฝาพับ

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

*...กล้องโลโม่...*

ประวัติความเป็นมาของ การถ่ายภาพจากกล้องโลโม่



ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ณ เมืองSt.Petersburg นายพล อีกอร์ เปรโตรวิช คอร์นิสกี้ มือขวาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอุตสาหกรรมของรัสเซีย ได้นำเอากล้องญี่ปุ่นตัวหนึ่งชื่อว่า Cosina CX-1, CX-2 มาให้กับสหายในพรรคคอมมิวนิสต์ ชื่อว่านาย พาฟิลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของโรงงาน lomo ที่ผลิตเลนส์และอาวุธของรัสเซีย เขาทำการตรวจสอบกล้อง Cosina นี้อย่างละเอียดแล้วพบว่ามันประกอบไปด้วยเลนส์ที่ไวแสงและคมชัด กับบอดี้ที่ทนทานแข็งแรง

เขาทั้งสองคนนี้เห็นประโยชน์และความสำคัญของกล้องเล็กๆ นี้ จึงได้สั่งให้ก๊อปปี้และพัฒนาในเรื่องของดีไซน์ และผลิตออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวคอมมิวนิสต์ทุกคนมีติดตัวไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือบันทึกเหตุการณ์ชีวิตชาวรัสเซียและบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในระยะเวลานั้น จากนั้นไม่นานมันก็ได้ถูกผลิตออกมามามายและจำหน่ายทั้งในรัสเซีย และที่อื่นๆ เช่น เวียดนาม, คิวบา, เยอรมันตะวันตก ฯลฯ
การออกแบบกล้องโลโม่ส่วนใหญ่ จะเน้นการออกแบบที่ให้ความรู้สึก เหมือนของเล่นเด็ก ซึ่งบางรุ่นวัสดุและชิ้นส่วนทุกอย่างเป็นพลาสติกหมด แม้กระทั่งฟันเฟืองต่างๆ ภายในกล้องสีสันก็สวยงาม บางทีพี่ป๋อมแป๋มยังเคยเข้าใจผิดนึกว่าเป็นกล้องถ่ายรูปเด็กเล่น ก็เคยมี

ภาพที่ถ่ายจากกล้องโลโม่บางคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งก็เป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่พี่คิดว่า มันมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากๆ เลยนะจ้ะพี่ธนชัย อุชิน (พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก) ไอดอลของใครหลายๆ คนก็ยังชื่นชอบและหลงใหลในการถ่ายภาพจากกล้องโลโม่และอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนอยากหากล้องโลโม่มาถ่ายภาพบ้าง





" ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของภาพถ่ายที่มีใบเดียวในโลกได้ "

;วิธีการใช้googleแบบมืออาชีพ






วิธีการใช้googleแบบมืออาชีพ

1.Google ใช้ and (และ) ในประโยคเสมอ เช่น ค้นหา harvest moon to
nature สำหรับ Google จะค้นหาแบบแยกคำharvest AND moon AND...
2.การใช้ or (หรือ) คือให้หาข้อมูลมากขึ้นจากคำ A และ B นำผลที่ได้มารวมกัน พิมพ์ or ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำ เช่น vacation london OR paris คือหาทั้งในลอนดอนและปารีส
3.Google จะละคำทั่วไป (the, to, of) และอักษรเดี่ยว เพราะทำให้ค้นหาช้าลง แต่ถ้าคำนั้นช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้นก็ใช้เครื่องหมาย + ข้างหน้า (เว้นวรรคก่อน) เช่น back +to nature
4.กันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงได้ด้วยการใช้ Advanced Search (หรือการค้นหาแบบพิเศษ ใน Google ไทย)
5.Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วย โดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด เช่น bass มี 2 ความหมายคือเกี่ยวกับปลาและดนตรี จะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออก ก็พิมพ์ bass -music
6.การค้นหาแบบทั้งวลี (คือค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย "..." เช่น "Breath of fire IV"
7.Google แปลเว็บภาษาอิตาเลียน, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน และโปรตุเกส เป็นภาษาอังกฤษได้ โดยคลิก "Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ
8.สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ HTML ได้ อาทิ Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf) Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt) วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono Cross" filetype:pdf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross ที่เป็น PDF ทั้งนี้ยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบ HTML ได้ โดยคลิก View as HTML (หรือ รูปแบบ HTML ใน Google ภาษาไทย)
9..สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ โดยคลิกที่ Cached (หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ช่วยให้สามารถเข้าบางเว็บที่โดนลบไปแล้วโดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)
10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน โดยคลิก Similar pages (หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องห่วงเรื่อง keyword
11.ค้นหา link ที่เชื่อมไปเว็บนั้นได้ วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com
12.ค้นหาเว็บจำเพาะเจาะจงได้ เช่น ต้องการหาเว็บเกี่ยวกับเข้ามหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu
13.มีบริการการค้นหาด่วน โดยนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหาส่งให้เลย เช่น ต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย Stanford ด่วน พิมพ์ Stanford แล้วกด I"m Feeling Lucky (หรือ ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย ใน Google ภาษาไทย)

คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง แก้อย่างไร

คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง แก้อย่างไร

ใครที่ใช้งานคอมพิวเตอร์มานานก็พอจะสัมผัสความรู้สึกนี้ได้ แล้วมักจะเชื่อว่าควรจะอัพเกรด เครื่องด้วยการเปลี่ยนซีพียูใหม่ หรือไม่ก็เพิ่มแรมได้แล้ว แต่จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์แล้ว กลับมองว่าวิธีการแก้ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่เชื่อ คุณก็ควรลองเปลี่ยนมาใช้งาน วินโดวส์ 98 และ Me ดู คุณจะพบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้เร็วกว่าเดิม แต่จะเร็วแค่ไหน คงต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย


สมัยนี้ คุณควรมีหน่วยความจำในเครื่องอย่างน้อย 64 เมกะไบต์ หากคุณต้องใช้งานแอพพลิเคชั่น หลาย ๆ ตัวพร้อมกัน ถ้าคุณมีหน่วยความจำน้อยกว่า 64 เมกะไบต์ละก็ คุณจะรู้สึกเหมือนว่า หน่วยความจำที่คุณถูกดูดหายไปเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณมีหน่วยความจำมากเพียงพอ แล้วละก็ คุณจะสามารถ จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยวิธีการทำหน่วยความจำเสมือน (Virtual Memory) และค้นหา หน่วยความจำที่พร่องหายไป (Memory Leak) ได้

สำหรับหน่วยความจำเสมือนนี้ เป็นแฟ้มข้อมูลเฉพาะในพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ โดยปกติเราจะเรียก กันว่า "สวอปไฟล์ ( SWAP FILE ) " เมื่อเครื่องพีซีของคุณเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำมาก เกินไป วินโดวส์จะช่วยปรับขนาดของสวอปไฟล์ตามใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงตามความต้องการ หาก พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณไม่มีเนื้อที่เพียงพอ สวอปไฟล์จะไม่สามารถขยายตามต้องการได้ทำให้เครื่องของคุณทำงานช้าลง

วิธีแก้ไขก็คือลบหรือย้ายแฟ้มข้อมูลบางส่วนออกจากฮาร์ดดิสก์ อีกวิธีคือย้ายสวอปไฟล์ไปอีก พาร์ติชั่นหรือฮาร์ดดิสก์ลูกอื่นที่มีพื้นที่เพียงพอ สำหรับวินโดวส์ 9x หรือ Me ให้คุณมาที่ Desktop คลิ๊กที่ปุ่มเม้าส์ขวาที่ My Computer เลือก Properties เลือกแถบ Performance เพื่อเลือก Virtual Memory คุณจะเห็นรายการสำหรับกำหนดค่าของ Virtual Memory ให้คุณเลือก Let me specify my own virtual memory setting ส่วนวินโดวส์ 2000 ให้คุณเลือก Advanced เลือก Performance Options และเลือกChange

สำหรับวิธีค้นหาหน่วยความจำที่พร่องหายไป มักจะเกิดจากซอฟต์แวร์บางตัวเสียหาย หรือไม่ก็ ออกแบบมาไม่ดีพอในการกำหนดขนาดของหน่วยความจำเมื่อต้องการใช้งาน หากคุณเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ หลายๆ ตัว จะทำให้กินเนื้อที่ในหน่วยความจำมากขึ้น จนกระทั่งระบบของ คุณไม่มีหน่วยความจำเพียงพอ การบู๊ตเครื่องใหม่อาจช่วยให้แก้ปัญหานี้ได้ชั่วคราว โดยการ กำหนดค่าของหน่วยความจำให้เป็นปกติ

การค้นหาแหล่งที่มาของส่วนที่พร่องหายไปทำได้โดยเลือก Start เลือก Programs เลือก Accessories และเลือก System Tools เพื่อใช้เรียกยูทิลิตี้ของ System Monitor มาตรวจสอบการใช้งานของหน่วยความจำ หากคุณหาไม่พบก็ให้ติดตั้งไปใหม่จากแผ่น CD ของ วินโดวส์ โดยการใช้คำสั่ง Add/Remove Programs จากนั้นก็ทำการกำหนดขนาดของ หน่วยความจำ โดยเลือก View เลือก Numeric Charts และ View และ Always on Top เพื่อเลือก Edit และ Add Item

ในรายการตัวเลือกที่ปรากฏอยู่ให้คุณเลือก Memory Manager จากนั้นให้กดปุ่ม ค้าง ไว้เพื่อเลือกรายการ Unused physical memory (หรือ Free Memory ในวินโดวส์ 95) เลือก Swapfile in use และ Swapfile size ให้คุณลองใช้งานและเปิด-ปิดแอพพลิเคชั่น หลาย ๆ อย่าง เพื่อตรวจสอบว่าโปรแกรมเหล่านี้ใช้หน่วยความจำมากน้อยเพียงใด และโปรแกรม ใดไม่คืนความจำให้หลังจากปิดโปรแกรม.
บทความจากเว็บไซต์
bcoms.net

การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์

การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมชำรุดไปตามสภาพระยะเวลาที่ใช้งาน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรเอาใจใส่ ดูแลและบำรุงรักษา อย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอายุ การใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยให้สามารถ ประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์

สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานได้ดีนั้นคืออย่างไร เช่น ในห้องคอมพิวเตอร์ของคุณควรจะมีอุณหภูมิสูงเท่าไร มีความชื้นไม่เกินเท่ากับขีดจำกัดของการทำงานเป็นอย่างไร ระยะเวลาในการทำงานของเครื่องเป็นอย่างไร ดังนั้น ห้องทำงานด้านคอมพิวเตอร์จึงควรเป็นห้องปรับอากาศที่ปราศจากฝุ่นและ ความชื้น ซอฟแวร์ แผ่นดิสก์ที่เก็บซอฟแวร์ และไฟล์ข้อมูล หรือสารสนเทศนั้น อาจเสียหายได้ ถ้าหากว่า แผ่นดิสต์ได้รับการขีดข่วน ได้รับความร้อนสูง หรือตกกระทบกระแทกแรง ๆ สิ่งที่ทำ ลายซอฟแวร์ได้แก่ ความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน และการฉีดสเปรย์พวกน้ำยาหรือน้ำหอม ต่าง ๆ เป็นต้น
การทำความสะอาดคอมพิวเตอร์
1. ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด
2. อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด ใช้ผ้าแห้งดีกว่า
3. อย่าใช้สบู่ น้ำยาทำความสะอาดใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบของเครื่อง เกิดความเสียหาย
4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
5. ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
6. ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่คู่มือแนะนำไว้เท่านั้น
7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์
8. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 เทคนิคการซ่อมคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง

10 เทคนิคการ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง

บ่อยครั้งที่คอมพิวเตอร์มีปัญหา เช่น อาการจอมืด , ซีดีรอมไม่ทำงาน หรือฮาร์ดิสก์เสีย ถึงแม้ว่าตอน ซื้อมาจะมีการรับประกัน 2 ถีง 3 ปี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้จะไม่ได้ซื้อ คอมพ์ทุก 2-3 ปีตามระยะการ ประกัน ดั้งนั้นการซ่อมจึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่นี้เรามาดูแนวทางการซ่อมคอมพ์พิวเตอร์ด้วยตนเอง
1. บันทึกทุกอย่างเก็บไว้ แม้ว่าการใช้คอมพิวเตอร์ จะทำให้สามารถที่จะทิ้งเอกสารกองโต ออกไปจากโต๊ะทำงาน ได้ก็ตาม แต่ก่อนที่ทิ้งทุกอย่างไป ควรจะทำการหาวิธีในการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ เผื่อในกรณีที่อาจเกิดปัญหา ในอนาคต ยอมเสียเวลาสักเล็กน้อยกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ซึ่งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์บางราย ก็ให้มีการลงทะเบียนกันแบบออนไลด์ แต่อย่าลืมพิมพ์สำเนาออกมาเก็บรวมไว้กับใบเสร็จรับเงิน เก็บใบเสร็จ รับเงินและใบรับประกันทุกอย่างไว้ให้ดี โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีการรับประกันแยกต่างหากออกไปไม่รวมกับ ตัวเครื่อง เช่น โมเด็ม , ซีพียู , เมนบอร์ด , จอ และอื่น ๆ
2.ทำการบ้านก่อนเลือกซื้อ ตอนที่ซื้อคอมพิวเตอร์ ควรจะต้องนึกถึงการซ่อมแซมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในการเลือกซื้อก็ต้องคิดอยู่เสมอว่า บางร้านรับซ่อมจะมีการคิดค่าตรวจสอบเครื่องด้วย ไม่ว่าเครื่องจะอยู่ใน ประกันหรือไม่ก็ตาม ก่อนซื้อคงจะต้องทำการบ้านกันให้ดีในเรื่องของประกันที่บริษัทมีให้ ไม่ว่าจะในเรื่องประกัน การขยายระยะประกัน หรือว่าค่าธรรมเนียมต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลาได้ในอนาคต
3.จดบันทึกอาการเสีย เมื่อคอมพ์พิวเตอร์มีอาการผิดปกติขึ้น ให้จดบันทึกอาการต่างไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Error Messages ต่างๆ ซึ่งจะมีประโยชน์และจะมีส่วนช่วยช่าง หรือผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สาเหตุเสียได้มาก ให้จดบันทึกอาการที่เกิดขึ้นให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ช่างจะได้ซ่อมได้เร็วและตรงจุด โดยทั่วไปแล้ว คำถามที่ช่างหรือคนที่จะช่วยเหลือคุณมักจะถามเช่น จอภาพแสดงอาการอย่างไร หรือ Error massage ที่เกิดขึ้นคืออะไร เป็นต้น ถ้าคุณสามารถที่จะตอบคำถามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อช่าง และคุณเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณปรึกษากับช่างผ่านทางโทรศัพท์ แลัก่อนที่จะตัดสินใจเลือกร้านซ่อมก็ให้ตรวจระยะเวลา ประกันของคอมพิวเตอร์และบรรดาอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ให้ดี
4.สำรวจให้ทั่ว ๆ การนำเครื่อคอมพิวเตอร์ไปซ่อมกับบริษัทที่คุณซื้อมาก็ไม่ใช้ว่าจะเป็นวิธีที่ดีเสมอไป เพราะบางครั้งถ้าศึกษาให้ดี ๆ อาจพบว่า ซ่อมกับบริษัทอาจทำให้คุณต้องเสียทั้งเงินและเวลา มากกว่าที่ตวรเป็นก็ได้ วิธีที่น่าจะดีกว่า ก็คือลองสำรวจร้านอื่น ๆ ดูไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือใหญ่ ตรวจสอบข้อมูลเรื่องเวลาและราคาในการซ่อมเช่น ค่าตรวจเครื่อง ค่าแรง หรือค่าซ่อมนอกสถานที่ (ในกรณีที่ต้องการให้ช่างมาซ่อมที่บ้าน) เป็นต้น ร้านเล็ก ๆ บางครั้งให้ความสำคัญเป็นกันเองกับลูกค้ามากกว่า ร้านใหญ่ ๆ เนื่องจากมีความต้องการอยู่รอดในการแข่งขันกับร้านใหญ่ ๆ ในขณะเดินสำรวจร้านต่าง ๆ อยู่ให้ลองสังเกคร้านที่ติดโลโก้ยี่ห้อดังเช่น ไอบีเอ็ม , คอมแพค , เป็นต้น ซึ่งมันอาจเป็นไปได้ว่า ร้านนั้น ๆ รับซ่อมเครื่องที่อยู่ในประกันของยี่ห้อนั้น ๆ แต่อย่างไรก็ตามร้านที่รับซ่อมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะรับซ่อม เครื่องทุกยี่ห้ออยู่แล้ว
5.ค้นหาบริการทางโทรศัพท์ บางกรณีอาจเป็นการไม่สะดวกที่จะเดินทางไปซ่อมที่ร้านโดยตรง การไปโทรศัพท์ไปปรึกษาจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เมื่อคุณเริ่มโทรศัพท์หาร้านซ่อม ให้ลองสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ที่คุณได้รับทางโทรศัพท์ เช่นต้องรอสายนานเท่าไร เต็มใจช่วยเหลือหรือไม่ แค่นี้ก็เป็นการช่วยตัดสินใจได้ว่า ควรซ่อมกับร้านนั้นหรือไม่ แล้วอย่าลืมจดชื่อรุ่นหรือ Serial Number ของคอมพิวเตอร์ไว้เพื่อความสะดวก หรือจะโทรไปรายการ 94 FM ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14:00-15:00 ที่นี้รับตอบปัญหาทุกเรื่องดีมากเลย
6.ค่าธรรมเนียม เมื่อยกเครื่องคอมพิวเตอร์ไปซ่อมเป็นธรรมดาที่ช่างจะสำรวจดูว่ามีอะไรบ้างที่ต้องซ่อม ตั้งแต่สายไฟยันฮาร์ดดิส ซึ่งร้านจำเป็นจะต้องคิดค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบนี้ แต่ก็มีบางร้านเหมือนกัน ที่ไม่คิด แต่ถ้าคุณพอมีความรู้เรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ก็อาจทดลองใช้โปรแกรม Norton Utility ตรวจสอบเครื่องของคุณก่อน บางที่อาจทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินก็ได้ หรือบางที่คุณอาจโทรมาเรียกช่างมาซ่อม ที่บ้านก็ได้ แต่คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น
7.คิดในแง่ร้ายไว้ก่อน หลังจากที่เครื่องของคุณได้รับการตรวจสอบอาการจากหลาย ๆ ร้านซ่อมแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนในการตัดสินใจว่า จะซ่อมหรือไม่ซ่อมในร้านใดจึงจะดี ซึ่งบางครั้งร้านซ่อมอาจจะบอกว่าเครื่อง ไม่อยู่ในประกันแล้วหรืออะไหล่ชิ้นที่ต้องการไม่มีอีกต่อไปแล้ว ข่าวร้ายเหล่านี้เป็นแคเพียงขั้นเริ่มต้นใน การซ่อมคอมพิวเตอร์ของคุณ บางที่คุณอาจลองสอบถามร้านดูว่าสามารถจะเอาอะไหล่เก่าไปแลกอะไหล่ใหม่ ได้หรือไม่ ในกรณีอะไหล่ชิ้นเก่าเลิกผลิตไปแล้ว โดยอาจต้องเพิ่มเงินเล็กน้อย
8.เตรียมเครื่องให้พร้อมก่อนนำไปซ่อม ก่อนที่จะทิ้งเครื่องเอาไว้ที่ร้านเพื่อทำการซ่อมลองตรวจสอบว่าคุณได้ แบ็กอัพข้อมูลที่สำคัญเอาไว้ , จด Serial number ของฮาร์ดิสก์ , ซีดีรอม , โมเด็ม และอื่น ๆ ไว้เพื่อตรวจสอบกับอุปกรณ์ที่นำมาเปลี่ยน ลบข้อมูลส่วนตัวออกให้หมดเช่น อินเตอร์เน็ทพาสเวิร์ด เพื่อป้องกันถูกลักลอบนำไปใช้
9..ขอเอกสารการซ่อมจากร้าน ก่อนที่จะทิ้งเครื่องเอาไว้ที่ร้านอย่าลืมขอเอกสารที่บอกถึงชิ้นส่วนที่จะเปลี่ยน และระยะเวลาในการซ่อม ตรวจสอบเอกสารให้ละเอียดเพื่อป้องกันค่าใช้จ่านแอแฝง แล้วอย่าลืมถามถึงการ รับประกันหลังการซ่อม
10.ติดตามความคืบหน้า สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือคอยโทรไปถามว่าการซ่อมไปถึงไหน เปลี่ยนอะไรบ้าง เสร็จทันกำหนดหรือไม่ และเมื่อไปรับเครื่อง ให้ทดสอบดูก่อนว่าเครื่องทำงานปกติหรือไม่ ก่อนนำเครื่องกลับ

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิธีการถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์


เคล็ดลับการถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์สำหรับ


คนที่วันๆ ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ คงต้องเกิดอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า หรืออาการทางสายตาอื่นๆ กันบ้าง ปัจจุบันอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น จากสถิติพบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศรีษะ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเหมื่อยคอและหลัง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และยังมีตัวแปรอีกหลายประการที่ทำร้ายสายตาของเรา เช่น ชนิดของจอคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่ง ฯลฯ


เคล็ดลับเพื่อถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์


1. กระพริบตาให้ถี่ขึ้น อาการตาแห้ง เกิดจากการที่เรากระพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกระพริบตาจะลดลงจาก 20 - 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 - 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ควรจะกระพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมให้ บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 - 70 ซ.ม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป
3. ปรับความสว่างของห้อง ควรปิดไฟบางดวงที่ทำการรบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่าง ควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้าน ที่สะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า
4. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เวลาพิมพ์งาน ควรเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษร ได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน หรือเลือกใช้จอคอมพวิเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอนสายตาได้ดีกว่าจอแบบเก่า (CRT)
5. เลือกใช้แว่นที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์ ควรเลือกใช้เลนส์สีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 - 70 ซ.ม. (ระยะกลาง) ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าวจะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือ หรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป
6. พักสายตา ทุกๆ ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็น เวลานาน

วิธีดูเเลจอ LCD ให้ใสปิ๊งอยู่เสมอ


วิธีดูแลหน้าจอ LCD ให้ใสปิ๊งอยู่เสมอ
สำหรับผู้ใช้มอนิเตอร์จอแบนที่เป็น LCD (หรือโน้ตบุ๊ก) พอนานๆ ไปคุณจะพบว่า หน้าจอมีจุดด่าง หรือรอยขีดข่วนเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอไม่ชัดเจน วินทิปครั้งนี้ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ในการดูแลหน้าจอให้สะอาดใหม่ใสปิ๊งอยู่เสมอด้วยตัวคุณเองครับ ก่อนจะทำความสะอาดขั้นแรกให้คุณปิดการทำงานของจอ LCD ก่อน เพื่อว่าคุณจะได้สามารถมองเห็นรอยเปื้อน หรือร่องรอยของจุดด่างต่างๆ ได้
อย่างชัดเจน จากนั้นหาผ้าฝ้ายที่ “อ่อนนุ่ม” แช่น้ำอุ่น แล้วบิดให้แห้งพอสมควร เช็ดเบาๆ บนหน้าจอจากบนลงล่าง หรือจากซ้ายไปขวา (ตามแต่ความถนัดของคุณ) แต่อย่าใช้วิธีเช็ดเป็นวงกลมโดยเด็ดขาด!!! หากปฎิบัติตามด้วยวิธีข้างต้นแล้ว ไม่สามารถทำให้หน้าจอดูสะอาดขึ้นมาได้ ให้คุณลองใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำสะอาดแทน อย่างไรก็ตาม หลักการทำความสะอาดหน้าจอ LCD ก็คือ ผ้าฝ้ายที่ใช้เช็ดจะต้องล้างให้สะอาดก่อนลงมือเช็ดทุกครั้ง และไม่ควรใช้การพ่นน้ำ (หรือ น้ำ + น้ำส้มสายชู) เข้าไปที่หน้าจอโดยตรง แล้วตามด้วยผ้าแห้งเช็ดถูเข้าไปอีกที ซึ่งด้วยวิธีนี้นอกจากจะไม่ช่วยให้หน้าจอของคุณสะอาดขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้หน้าจอมีปัญหาการแสดงผลในอนาคตได้อีกด้วย หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาเช็ดกระจก หรือชุดทำความสะอาดที่ส่วนผสมของแอมโมเนีย เนื่องจากมันจะทำให้พื้นผิวหน้าจอ LCD กลายเป็นสีเหลือง (สังเกตได้จากสีขาวที่เห็นในหน้าจอจะเห็นเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) หวังว่า คำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้ คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้จอ LCD ทุกท่านนะครับ

ที่มา http://www.zabzaa.com/tips/showtips.asp?GID=92

การหาเพลง, tip google แบบต่างๆและการสร้างรายได้จาก google


การหาเพลง, tip google แบบต่างๆและการสร้างรายได้จาก google


สูตรหาเพลงใน Google

เพลงหลายๆเพลงที่เราเคยได้ยินมาเป็นเพลงเพราะๆซึ้งซึ้งเราก็ชอบมากแต่เราไม่มีตัวเพลงอยู่เลยทำไงดี
วันนี้ก็เลยนำเอาวิธีการหาเพลงในGoogle มาฝากกันโดยพิมพคำนี้ลงไปในช่องค้นหาได้เลย

+mp3 +"index of" +"last modified"+ชื่อเพลงที่ต้องการหา

เเค่นี้ัตัวเพลงก็จะมาอยู่ในมือเราอย่างง่ายดาย
*หมายเหตุ สูตรนี้ไม่ได้หมายความว่าจะัหาได้ทุกเพลง อันนี้จะหาได้แค่บางเพลงเท่านั้น ถ้าอันไหนที่หาได้็
ก็มักจะมีคำว่า Index/... เป็นต้นไป (รับรองผล 20%)

วิธีที่ 2 รับรองผล 50 % คือ ชื่อเพลงที่เราต้องการหา filetype:mp3
วิธีที่ 3 รับรองผล 99 % คือ ชื่อเพลงที่ต้องการค้นหา site:(เว็บไซต์ที่เปิดให้บริการ Upload)
เช่น My love site:www.mediafire.com
วิธีที่ 4 รับรองผล 99.95 % คือ ชื่อเพลงที่เราต้องการค้นหา +(ชื่อ Website Upload ต่างๆ)
เช่น Cannon +www.mediafire.com



การใช้ Google คิดเลข

เพียงแค่เราพิมพ์ไปว่า 2+2 แค่นี้ google ก็จะทำการคำนวนผลออกมาให้เราอย่างง่ายดายว่ามันคือ 4
การบวกใช้เครื่องหมาย +
การลบใช้เครื่องหมาย -
การคูณใช้เครื่องหมาย *
การหารใช้เครื่องหมาย /
การหาเศษใช้เครื่องหมาย %




การค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของคน

เราสามารถใช้คำสั่ง phonebook: เข้าไปได้เช่น เราต้องการหาหมายเลขโทรศัพท์ของ Sara ในประเทศ
ไทยก็พิมพ์ไปว่า phonebook:Sara,Thai และเราก็จะได้ผลการค้นหามา (หลังจากที่เราค้นหา
ไปแล้วนั้นเราสามารถดูทีอยู่ได้โดยคลิกที่ Yahoo maps หรือ MapQuest)



การใช้ google ค้นหาความหมายของคำ

สามากทำได้โดยพิมพ์ข้อความลงไปตามปกติและจองดูที่แถบด้านบนตรงแถวๆคำว่า Results จะมีคำว่า
defintion หรือว่าจะใช้คำสั่ง define:ในการค้นหาก็ย่อมได้



การจัดลำดับา keyword ที่มีคนค้นหามากที่สุดใน google

สามารถเข้าไปดูที่หน้า http://www.google.com/press/zeitgeist.htmlและสามารถแยกไปดู
เป็นประเทศได้โดยการคลิกที่ Zeitgeist Around the World



การหาเงินโดยการใช้ google adsense

การทำ google adsense นั้นคือการที่เราทำการโฆษณาผ่านเว็บโดยนำ code จาก google adsense
มาลงแล้วทาง google adsense จะทำการหาโฆษณาที่เหมาะสมมาลงให้เองโดยที่จะจ่ายให้เมื่อมีคนคลิก
หรือดูเว็บของเรา โดย google adsense นั้นจะสามารถทำรายได้ให้แก่เราตั้งแ่ต่ไม่กี่บาทจนไปถึงกระทั่ง
หลายล้านบาทเลยก็เป็นไปได้ ถ้าสนใจสามารถเข้าไปดูที่ http://www.google.com/adsenseและถ้า
เกิดว่าอยากเพิ่มคนเข้าเว็บของเรา google ก็มีคำตอบให้เช่นเดิมโดยเราสามารถจ่ายเงินเพื่อทำการลงโฆษณา
กับ Google ถ้าสนใจสามารถเข้าไปดูที่ http://www.google.com/adword



การแปลภาษาโดย google

เข้าไปที่หน้า http://translate.google.com แล้วลองไปดูกัน สามารถแปลจากอังกฤษเป็นภาษาฝรั่งเศส
จากฝรั่งเศสเป็นจีน จากจีนเป็นอาหรับ หรือจากอาหรับเป็นดัชก็ได้ ซึ่งตัวนี้มีให้เลือกได้หลากหลายภาษา
เป็นอย่างมากและในปัจจุบันรับรองภาษาไทยแล้ว โปรแกรม translate ของ Google ยังสามารถที่จะแปล
หน้าเว็บได้ด้วยการกรอกชื่อ URL ลงไปแค่นั้น googleก็จะแปลให้อย่างรวดเร็วซึ่งทำให้เราสามารถเข้าเว็บต่างๆ
ได้โดยที่ไม่ต้องสนใจขีดจำกัดทางด้านภาษาอีกต่อไปและยังมี Option คำแนะนำการแปลถ้าเกิดว่าการแปล
นั้นผิดพลาดขึ้นมาเราก็สามารถกรอกข้อความที่ถูกต้องลงไปในข้อความนั้นได้เลยทำให้ข้อความมีความแม่น
ยำมากขึ้นอีกด้วย



google กับการถามตอบ(ต้องจ่ายเงินเล็กน้อยและผู้ที่ตอบนั้นจะได้เงินด้วย)

เข้าไปที่หน้า http://answers.google.com แล้ว login เข้าไปสามารถเข้าไปถามในปัญหาต่างๆได้เลย
(สำหรับท่านที่ต้องการได้คำตอบแบบเร่งด่วน เมื่อ search หาข้อมูลก็ไม่มีี)



คำสั่งการค้นหาอย่างเซียน

allintitle: (ค้นหาทั้งหมดที่มี keyword คำนั้นผสมใน title)
allinurl: (ค้นหาทั้งหมดที่มี keyword คำนั้นผสมใน url)
allintext: (ค้นหาทั้งหมดที่มี keyword คำนั้นผสมในข้อความ)
allinanchor:
link: (หา backlink ที่ชี้มาหน้านั้นๆ)
index: (หาหน้าเว็บที่ถูกเก็บไปโดย Google ทั้งหมด)
info: (หาข้อมูลของ Website หรือดูว่าเว็บไหนโกง Pagerank ซึ่งถ้ามีการโกงขึ้นมาค่าของ Url ที่เรา
search จะไม่ตรงกับค่าที่ปรากฏออกมาในช่องผลลัพท์)



การค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น

"" การใช้เครื่องหมาย "" ครอบข้อความที่ต้องการหาเป็นการระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องการค้นหาเรื่องที่มีคำ
นี้อยู่เท่านั้น ตัวอย่างการใช้งานเช่น "Google is good serch engine"
+ เป็นการสั่งให้ค้นหาคำที่มีเนื้อหานี้ผสมอยู่ด้วย ตัวอย่างการใช้งาน google +adsense
~ เป็นกา่รค้นหาคำที่มีความหมายใกล้เคียงกันด้วย
- สำหรับคำที่ไม่ต้องการให้ปรากฏออกมาด้วย
OR เป็นการสั่งให้ค้นหาคำนี้เข้าไปด้วย เช่น cat is animal OR Dog
filetype: เป็นคำสั่งที่บอกให้ค้นหาเฉพาะใน file ชนิดนั้นๆเช่น google filetype:doc, cannon
filetype:mp3 เป็นต้น



การใช้ Google แปลงหน่วยต่างๆ

โดยการระบุค่าต่างๆลงไปยกตัวอย่างเช่น 5 kilometer in miles จะเป็นการถามว่า 5 กิโลเมตรเท่ากับกี่ไมล์
และยังสามารถแปลงค่าเงินได้เช่น 1200 Bath in USD เป็นต้น

ที่มา http://www.viruscom2.com/tip-computer/google.html